Business Email Writing
การเขียนอีเมลภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ
ในสภาวะปัจจุบันที่เทคโนโลยีและการสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ทักษะการเขียนอีเมลอย่างมีประสิทธิภาพและตรงประเด็นถือเป็นความสามารถที่จำเป็นอย่างยิ่ง หลักสูตร Business Email Writing ของเราได้รับการพัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารธุรกิจ เพื่อยกระดับความสามารถในการเขียนอีเมลธุรกิจของผู้เข้าอบรมสู่มาตรฐานมืออาชีพ
โปรแกรมนี้ครอบคลุมทั้งการสื่อสารภายในองค์กรและการติดต่อกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในบริบทธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้เทคนิคการเขียนที่ชัดเจน กระชับ และเหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร ตลอดจนมารยาทในการสื่อสารทางธุรกิจ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพในการปฏิบัติงาน
Learning Benefit
สิ่งที่จะได้รับจากการเรียนรู้
- ทำความเข้าใจวิธีการเขียนอีเมลธุรกิจที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
- ฝึกฝนการใช้สำนวนภาษาอังกฤษที่เป็นทางการในบริบทต่าง ๆ ของการทำงาน
- พัฒนาทักษะการเขียนอีเมลเพื่อติดต่อกับลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจ
- เข้าใจการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
Select Our Solution - Select Your Result
ยืดหยุ่นกว่าด้วยการเลือกโซลูชั่นหรือ หัวข้อการเรียนรู้ของเรา
ที่ตอบโจทย์บริบท และสนับสนุนเส้นทางความสำเร็จขององค์กรคุณ
KEY Learning PointS
Professional Tone and Language
เรียนรู้วิธีการใช้สำนวนภาษาอังกฤษที่เหมาะสมกับบริบททางธุรกิจ ทั้งในเชิงทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือ
Email Structure and Format
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างอีเมลที่ดี เริ่มจากหัวข้อที่กระชับ เนื้อหาที่ตรงประเด็น และการลงท้ายที่มีความสุภาพ
Writing Clear and Concise Emails
เรียนรู้วิธีการเขียนอีเมลที่กระชับและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้รับสามารถรับข้อมูลและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
Subject Lines That Get Attention
ฝึกการตั้งหัวข้ออีเมลที่ดึงดูดความสนใจและชัดเจน เพื่อให้ผู้รับสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าอีเมลนั้นเกี่ยวกับอะไร
Avoiding Common Email Mistakes
รู้จักข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการเขียนอีเมลธุรกิจ และวิธีการหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
Cultural Sensitivity in Email Communication
เรียนรู้ความสำคัญของการมีความเข้าใจในวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเขียนอีเมลในโลกธุรกิจ เพื่อหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
More flexible learning
The Blended Learning
เลือกจัดการเรียนรู้ได้ 4 รูปแบบ
Workshop Class
เรียนรู้แบบ Active Learning แลกเปลี่ยนมุมมอง และประสบการณ์เรียนรู้ ผ่านเวิร์คช็อประดับโลก
Virtual Classroom
เรียนรู้ผ่านห้องเรียนออนไลน์ เรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม ด้วยเครื่องมือ เทคโนโลยีดิจิทัล
E-Learning
เรียนรู้แบบไมโครเลิร์นนิ่ง ทบทวนซ้ำได้ไม่จำกัด เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา มีระบบวัดความรู้ ความเข้าใจ หลังเรียน
Blended Program
ออกแบบเส้นทางการเรียนรู้แบบผสมผสาน ที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร พร้อมติดตามและประเมินผลความสำเร็จ
More Learning Experience
ACTION LEARNING
เราให้ความสำคัญกับประสบการณ์เรียนรู้ เพื่อให้ทุกนาทีของผู้เรียน
มีคุณค่าและเกิดแรงผลักดันแห่งการเปลี่ยนแปลงด้วยเองมากที่สุด
เราจึงออกแบบคอร์สจากงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงออกแบบบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม และเวิร์คช็อประดับโลก ผ่านกระบวนการถ่ายทอดความรู้อย่างเป็นระบบ
You ask, we answer
คำถามที่พบบ่อย
องค์กรสามารถกำหนดจำนวนชั่วโมงการฝึกอบรมได้
เบื้องต้น 6 ชั่วโมง (1 วัน) , 12 ชั่วโมง (2 วัน)
หรือหากต้องเน้นผลลัพธ์สามารถออกแบบเป็น
โปรแกรม Blended Learning Program ได้
เราแนะนำว่าหากเรียนรู้แบบ Workshop Class
เพื่อประสิทธิภาพของการเรียนรู้ผู้เรียนไม่ควรเกิน 25-30 ท่าน
แต่หากเป็นรูปแบบ Virtual Classroom เราแนะนำว่า
จำนวนผู้เรียนที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 50-100 ท่าน
- สามารถออกแบบหลักสูตร กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือ เลือกหัวที่ตรงกับเป้าหมายองค์กรของคุณได้อย่างยืดหยุ่น
- ประสบการณ์เรียนรู้ ที่เหนือกว่า ด้วยการเรียนรู้ผ่าน บอร์ดเกม, เวิร์คช็อป และ เฟรมเวิร์คระดับโลก
- ไฟล์คู่มือ สามารถดาวน์โหลด เรียนทบทวนซ้ำได้
- คอร์สออนไลน์ และ สังคมการเรียนรู้ พื้นที่อัพเดทความรู้ และ แลกเปลี่ยนความรู้บนแพลตฟอร์ม Fastlearn10x
- แบบทดสอบวัดความรู้ในคลาส และเครื่องมือติดตามผลในระดับที่สูงขึ้น
โปรแกรมการเรียนรู้แบบผสมผสาน คือการออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ โดยการแบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 3 สเตจ โดย
สเตจแรกคือ Knowledge Stage : จะให้ผู้เรียน เรียนรู้ข้อมูล เนื้อหาสำคัญผ่าน E-Learning และทดสอบความรู้ก่อนไปสู่สเตจต่อไปคือ
สเตจที่สอง Practice stage : ผู้เรียนจะได้ฝึกปฏิบัติผ่านกรณีศึกษา , เวิร์คช็อปต่างๆ และสรุปด้วยการสะท้อนการเรียนรู้ร่วมกัน โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนยกระดับความรู้ไปสู่การปฏิบัติ สร้างความพร้อมไปสู่สเตจสุดท้าย
สเตจสุดท้าย Business Result Stage : ผู้เรียนจะต้องทำ Pilot Project หรือ Micro Innovation เพื่อเป็นการยืนยันผลลัพธ์สุดสูงของการเรียนรู้