ビジネス用日本語メールの書き方
การเขียนอีเมลภาษาญี่ปุ่นสำหรับธุรกิจ
ในบริบทของวัฒนธรรมองค์กรญี่ปุ่น การสื่อสารทางอีเมลที่มีความแม่นยำทางภาษาและสอดคล้องกับมารยาททางธุรกิจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง การนำเสนออีเมลที่มีความเป็นมืออาชีพและเหมาะสมกับบริบท ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจเชิงบวกเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ทางธุรกิจในระยะยาว หลักสูตร “การเขียนอีเมลภาษาญี่ปุ่นสำหรับธุรกิจ” ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมสร้างทักษะการเขียนอีเมลภาษาญี่ปุ่นให้มีความถูกต้องทั้งในด้านไวยากรณ์ การใช้สำนวน และการปฏิบัติตามมารยาททางธุรกิจที่เหมาะสม
Learning Benefit
สิ่งที่จะได้รับจากการเรียนรู้
- เข้าใจโครงสร้างของอีเมลธุรกิจภาษาญี่ปุ่น ตั้งแต่การขึ้นต้นจนถึงการลงท้าย เพื่อให้การสื่อสารชัดเจนและเป็นมืออาชีพ
- เรียนรู้คำศัพท์และสำนวนทางธุรกิจที่ใช้บ่อย เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะสม
- ฝึกเขียนอีเมลในหลากหลายสถานการณ์ เช่น ขอข้อมูล ตอบกลับลูกค้า หรืออีเมลติดตามผล
- เพิ่มความมั่นใจในการเขียนอีเมลที่เป็นมืออาชีพ เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
Select Our Solution - Select Your Result
ยืดหยุ่นกว่าด้วยการเลือกโซลูชั่นหรือ หัวข้อการเรียนรู้ของเรา
ที่ตอบโจทย์บริบท และสนับสนุนเส้นทางความสำเร็จขององค์กรคุณ
KEY Learning PointS
Email Structure
เรียนรู้โครงสร้างของอีเมลธุรกิจภาษาญี่ปุ่น ตั้งแต่หัวข้อ การขึ้นต้น คำขึ้นต้น เนื้อหา ไปจนถึงการลงท้าย
Business Vocabulary & Phrases
ทำความเข้าใจคำศัพท์และสำนวนที่ใช้บ่อยในการเขียนอีเมลธุรกิจ เพื่อให้การสื่อสารดูเป็นมืออาชีพและเหมาะสมกับบริบท
Writing Different Types of Business Emails
ฝึกเขียนอีเมลในหลากหลายสถานการณ์ เช่น อีเมลขอข้อมูล อีเมลขอบคุณ อีเมลตอบปฏิเสธ หรืออีเมลติดตามผล
Concise & Clear Communication
ฝึกเขียนอีเมลให้กระชับ ได้ใจความ และลดความคลุมเครือในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้รับเข้าใจได้ง่าย
Email Etiquette & Japanese Business Culture
เข้าใจมารยาททางธุรกิจของญี่ปุ่น เช่น การใช้คำขึ้นต้นและคำลงท้ายที่เหมาะสม หรือการเลือกใช้สำนวนที่สุภาพ
Handling Challenging Email Situations
ฝึกเขียนอีเมลในสถานการณ์ที่ยาก เช่น การปฏิเสธอย่างสุภาพ การร้องขอความช่วยเหลือ หรือการตอบกลับข้อร้องเรียน
More flexible learning
The Blended Learning
เลือกจัดการเรียนรู้ได้ 4 รูปแบบ
Workshop Class
เรียนรู้แบบ Active Learning แลกเปลี่ยนมุมมอง และประสบการณ์เรียนรู้ ผ่านเวิร์คช็อประดับโลก
Virtual Classroom
เรียนรู้ผ่านห้องเรียนออนไลน์ เรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม ด้วยเครื่องมือ เทคโนโลยีดิจิทัล
E-Learning
เรียนรู้แบบไมโครเลิร์นนิ่ง ทบทวนซ้ำได้ไม่จำกัด เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา มีระบบวัดความรู้ ความเข้าใจ หลังเรียน
Blended Program
ออกแบบเส้นทางการเรียนรู้แบบผสมผสาน ที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร พร้อมติดตามและประเมินผลความสำเร็จ
More Learning Experience
ACTION LEARNING
เราให้ความสำคัญกับประสบการณ์เรียนรู้ เพื่อให้ทุกนาทีของผู้เรียน
มีคุณค่าและเกิดแรงผลักดันแห่งการเปลี่ยนแปลงด้วยเองมากที่สุด
เราจึงออกแบบคอร์สจากงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงออกแบบบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม และเวิร์คช็อประดับโลก ผ่านกระบวนการถ่ายทอดความรู้อย่างเป็นระบบ
You ask, we answer
คำถามที่พบบ่อย
องค์กรสามารถกำหนดจำนวนชั่วโมงการฝึกอบรมได้
เบื้องต้น 6 ชั่วโมง (1 วัน) , 12 ชั่วโมง (2 วัน)
หรือหากต้องเน้นผลลัพธ์สามารถออกแบบเป็น
โปรแกรม Blended Learning Program ได้
เราแนะนำว่าหากเรียนรู้แบบ Workshop Class
เพื่อประสิทธิภาพของการเรียนรู้ผู้เรียนไม่ควรเกิน 25-30 ท่าน
แต่หากเป็นรูปแบบ Virtual Classroom เราแนะนำว่า
จำนวนผู้เรียนที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 50-100 ท่าน
- สามารถออกแบบหลักสูตร กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือ เลือกหัวที่ตรงกับเป้าหมายองค์กรของคุณได้อย่างยืดหยุ่น
- ประสบการณ์เรียนรู้ ที่เหนือกว่า ด้วยการเรียนรู้ผ่าน บอร์ดเกม, เวิร์คช็อป และ เฟรมเวิร์คระดับโลก
- ไฟล์คู่มือ สามารถดาวน์โหลด เรียนทบทวนซ้ำได้
- คอร์สออนไลน์ และ สังคมการเรียนรู้ พื้นที่อัพเดทความรู้ และ แลกเปลี่ยนความรู้บนแพลตฟอร์ม Fastlearn10x
- แบบทดสอบวัดความรู้ในคลาส และเครื่องมือติดตามผลในระดับที่สูงขึ้น
โปรแกรมการเรียนรู้แบบผสมผสาน คือการออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ โดยการแบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 3 สเตจ โดย
สเตจแรกคือ Knowledge Stage : จะให้ผู้เรียน เรียนรู้ข้อมูล เนื้อหาสำคัญผ่าน E-Learning และทดสอบความรู้ก่อนไปสู่สเตจต่อไปคือ
สเตจที่สอง Practice stage : ผู้เรียนจะได้ฝึกปฏิบัติผ่านกรณีศึกษา , เวิร์คช็อปต่างๆ และสรุปด้วยการสะท้อนการเรียนรู้ร่วมกัน โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนยกระดับความรู้ไปสู่การปฏิบัติ สร้างความพร้อมไปสู่สเตจสุดท้าย
สเตจสุดท้าย Business Result Stage : ผู้เรียนจะต้องทำ Pilot Project หรือ Micro Innovation เพื่อเป็นการยืนยันผลลัพธ์สุดสูงของการเรียนรู้